Meso Therapy

Mesotherapy คืออะไร ?

คือ การฉีดยา สารอาหาร หรือ วิตามินเข้าไปในชั้นเมโซเดริ์ม ( Mesoderm ) คือ ชั้นหนังแท้ ไขมันใต้ผิวหนัง เยื่อบุข้อต่อหรือเส้นเอ็น เป็นต้น เพื่อให้ร่างกายได้รับสารที่ฉีดเข้าไปออกฤทธิ์โดยตรงโดยไม่ต้องขบวนการดูด ซึม นำมาใช้ในหลายกรณี เช่น การฉีดวิตามินบำรุงผิวเข้าไปบริเวณใบหน้าเพื่อให้ผิวหน้าดูสดใส ฉีดโบท็อกซ์เพื่อให้ผิวตึงกระชับ ฉีดสารสลายไขมันเข้าไปในชั้นไขมันใต้ผิวหนังเพื่อลดไขมันส่วนเกิน ฉีดยาปลูกผมเข้าไปในบริเวณหนังศรีษะเพื่อกระตุ้นให้ผมดกดำ เป็นต้น โดยใช้ไซริงฉีดยาดูดสารหรือวิตามินที่ต้องการฉีดแล้วใช้เข็มขนาดเล็กๆฉีด เข้าไปโดยตรง นับสิบหรือร้อยๆจุดๆให้ทั่วบริเวณที่ๆต้องการ

สามารถใช้ในกรณีใดบ้าง และต้องทำอย่างไรจึงจะได้ผล ?

เครื่องมือที่อาศัยเทคนิคเมโซเธอราพีแบบไม่พึ่งเข็มนี้เริ่มมีการใช้อย่างแพร่หลายมากขึ้นโดยใช้ควบคู่กับค็อกเทลชนิดต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น

-Mesofiller กระชับผิวหน้า แก้ปัญหาริ้วรอยเหี่ยวย่น โดยผลักคอลลาเจน กรดไฮยาลูโรนิก และสารอาหารเข้าผิวโดยตรง

-Mesoslim ลดไขมันส่วนเกิน โดยผลักตัวสลายไขมันเช่น เดคาเป็ปไทด์ แอลคาร์นีทีน และสาหร่ายบางชนิดที่มีคุณสมบัติยับยั้งการสะสมของไขมันส่วนเกิน และเร่งการเผาผลาญไขมันส่วนเกิน

-Mesobright ขาวใสไร้ฝ้า ลดรอยหมองคล้ำด้วยส่วนผสม Nikkol Vitamin C ซึ่งเป็นวิตามินที่ละลายได้ในน้ำและไขมัน สามารถดูดซึมเข้าเซลล์ผิวได้ดีกว่า วิตามินซีทั่วไปถึง 7 เท่า พร้อมออกฤิทธิ์ยับยั้งกระบวนการสร้างเม็ดสีทำให้รอยดำ รอยหมองคล้ำจางลงอย่างเห็นได้ชัด 

Mesolift ผลลัพธ์สู่การมีผิวกระชับ สดใสเต่งตึง โดยการผลักสารอาหาร เช่น Biopptide, Low molecular weight hyaluronic acids, Aminopropane

-Mesofirmness กระชับผิวหน้าและลำตัวรวมถึงหน้าอก ลดรอยแตกลายโดยการผลักสารบางชนิดที่มีคุณสมบัติยับยั้งการสะสมของไขมันส่วนเกิน และเร่งการเผาผลาญไขมันส่วนเกิน

การทำให้ผิวใสไร้ริ้วรอย รูปร่างเพรียวหรือกระชับด้วยเทคนิคเมโซเธอราพีแบบไม่พึ่งเข็มนี้ จะรู้สึกว่าผิวเรียบเนียนขึ้นแต่ครั้งแรกหลังทำ แต่จะเริ่มเห็นผลชัดเจนเมื่อผ่านไป 24 ชั่วโมง เนื่องจากสารอาหารที่ถูกผลักเข้าไปในเซลล์ยังไม่ได้ออกฤทธิ์ทันทีแต่ จะค่อยๆทำให้เซลล์ที่ได้รับสารอาหารนั้นเกิดการเปลี่ยนแปลง โดยควรทำสัปดาห์ละครั้งอย่างน้อย 6 ครั้งติดต่อกันจึงเห็นผลเปลี่ยนแปลงที่ชัดเจน ….

ข้อควรระวังในการใช้งาน?

เนื่องจากการทำงานเป็นระบบไฟฟ้าควรระมัดระวังในหญิงตั้งครรภ์ ผู้ที่มีปัญหาเรื่องโรคหัวใจ ผู้ที่ใส่ pacemakers ผู้ที่ใส่เหล็ก และในระหว่างการทำงานควรแนะนำให้ผู้ถูกกระทำถอดเครื่องประดับเพราะอาจเป็นสื่อนำไฟฟ้าได้

Visitors: 57,793